วิธีป้องกันไข้หวัด เสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ห่างไกลหวัด
เราทุกคนล้วนเคยมีอาการหวัดหรือเป็นไข้ รวมถึงอาการปวดเมื่อย คัดจมูก จมูกอุดตัน ไอ จาม เจ็บคอ หรือการติดเชื้อไวรัสบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น เช่น จมูก คอ ไซนัส และกล่องเสียง ความจริงแล้วทราบหรือไม่ว่า ไข้หวัดจัดว่าเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดในมนุษย์ โดยในแต่ละปีมีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสไข้หวัด (Influenza) ในระดับรุนแรงประมาณ 3 ถึง 5 ล้านคนเลยทีเดียว ในบทความนี้ จะพาทุกคนไปรู้จักกับสาเหตุของไข้หวัด และไข้หวัดใหญ่ หากเป็นหวัดควรกินอะไรดี และวิธีป้องกันไข้หวัดด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ
ไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดธรรมดา (Common Cold)
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสมากกว่า 200 สายพันธุ์ แต่สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ เชื้อไรโนไวรัส (Rhinovirus) และเชื้ออะดีโนไวรัส (Adenovirus) โดยทั่วไปอาการจะเล็กน้อยและไม่รุนแรง เช่น ไข้ต่ำ น้ำมูก เจ็บคอ และอาการไอ สามารถหายได้เองในไม่กี่วัน แต่ก็มีบางรายอาจถึง 2 สัปดาห์
ไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
เป็นโรคที่เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีหลายสายพันธุ์หลัก ๆ คือ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ (Influenza A) และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บี (Influenza B) อาการของไข้หวัดใหญ่ มักรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา และมีโอกาสที่จะเกิดอาการรุนแรงและมีภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพ เช่น ปอดอักเสบ หรือการติดเชื้อในกระแสเลือด จึงต้องได้รับการรักษาอาการ เพื่อลดความรุนแรงของโรค
การแพร่กระจายของไวรัสไข้หวัด
ไวรัสไข้หวัดสามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้หลายวิธี เช่น
ผ่านละอองฝอยจากการไอหรือจาม : เมื่อผู้ป่วยไอหรือจาม ละอองฝอยที่ปนเปื้อนเชื้อจะฟุ้งกระจายในอากาศ ผู้ที่สูดดมละอองฝอยเหล่านี้เข้าไปมีโอกาสติดเชื้อ
การสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อนเชื้อ : ไวรัสไข้หวัดสามารถอยู่รอดบนพื้นผิวต่าง ๆ ได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง หากเราสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อนเชื้อแล้วนำมือมาสัมผัสใบหน้า เช่น ตา จมูก ปาก ก็จะมีโอกาสติดเชื้อ
การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย : การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย การใช้ภาชนะร่วมกัน ทำให้มีโอกาสติดเชื้อ
นอกจากนี้ ไวรัสไข้หวัดมีแนวโน้มที่จะระบาดมากขึ้นในฤดูหนาว เพราะอากาศที่เย็นและแห้งทำให้ไวรัสสามารถอยู่รอดได้นานขึ้น
การตอบสนองของภูมิคุ้มกันร่างกายต่อไข้หวัด
เมื่อร่างกายได้รับเชื้อไวรัสหรือมีการติดเชื้อหวัด ระบบภูมิคุ้มกันจะทำงานเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค (จุลินทรีย์ก่อโรค) กลไกการต่อสู้เหล่านี้จะส่งผลให้ร่างกายของคุณมีอุณหภูมิสูงขึ้นเพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อ ซึ่งถ้าหากร่างกายของเรามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงก็จะช่วยเร่งการฟื้นตัวจากอาการหวัดและช่วยลดภาวะแทรกซ้อนของระบบทางเดินหายใจจากการติดเชื้อไวรัสได้
หลีกเลี่ยงการเป็นหวัด ต้องกินอะไรดี? ทำอย่างไรได้บ้าง?
ถึงแม้ว่าการหลีกเลี่ยงกับเชื้อไวรัสจะทำได้ยาก แต่เรามีวิธีง่าย ๆ ในการป้องกันตนเอง และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และลดอาการไข้หวัดที่รุนแรงได้อีกด้วย
การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นอาหารแก้หวัด หรืออาหารที่เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายในปริมาณที่สมดุล ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้เรามีสุขภาพดี โดยโภชนาการที่ดีควรประกอบด้วย การรับประทานผักใบเขียวและผลไม้ทุกวัน โดยเฉพาะผักคะน้า ผักปวยเล้ง บรอกโคลี ฝรั่ง สตรอว์เบอร์รี ที่อุดมด้วยวิตามินซีสูง จึงมีส่วนในการแก้หวัดได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังสามารถรับประทานขนมปังโฮลเกรน รับประทานซีเรียลนมในปริมาณปานกลาง และรับประทานเนื้อสัตว์และปลาในปริมาณเล็กน้อย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน และส่งเสริมให้ภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
วิตามินและแร่ธาตุ : การรับประทานอาหารที่สมดุลและเหมาะสมต่อสุขภาพ จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นอย่างเพียงพอ เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายของคุณมีสิ่งที่จำเป็นในการรักษาระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและสมบูรณ์ สำหรับคนที่เป็นหวัดบ่อยแต่ไม่แน่ใจว่าควรกินวิตามินอะไรดี มีแนะนำดังนี้
วิตามินซีกับการป้องกันหวัด มีส่วนช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายต่อต้านไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคหวัด
สังกะสีเกราะป้องกันไวรัสหวัด มีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาว กระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น
โพรไบโอติก แบคทีเรียดีที่เสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยป้องกันการติดเชื้อได้มากขึ้น ลดความรุนแรงในโรคหวัดได้
การฉีดวัคซีน : ทุกคนที่อายุ 6 เดือนขึ้นไปสามารถรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ทุกปี แต่หากคุณมีอาการแพ้หรืออาการอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดวัคซีน
การมีสุขอนามัยที่ดี (Hygiene) : วิธีป้องกันไข้หวัดมีกุญแจสำคัญในการลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วย คือ การลดการสัมผัสกับเชื้อโรค การมีสุขอนามัยที่ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง หากคุณอยากมีสุขภาพแข็งแรงอยู่ตลอด คุณควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนสัมผัสอาหาร หรือรับประทานอาหาร รวมถึงก่อนใส่คอนแท็กต์เลนส์ หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ต้องสัมผัสดวงตา ใบหน้า หรือปาก
เก็บรักษาของใช้ส่วนตัว : เนื่องจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สามารถมีชีวิตได้นานถึง 24 ชั่วโมง ทำให้มีเวลามากพอที่จะแพร่เชื้อไปสู่หลายคน ดังนั้นคนป่วยคนเดียวสามารถแพร่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ไปสู่สมาชิกในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนร่วมงานได้ คุณจึงไม่ควรแบ่งปันของใช้ส่วนตัว เช่น แปรงสีฟัน ผ้าขนหนู เสื้อผ้า เครื่องใช้ในการรับประทานอาหาร หรือแก้วน้ำ ร่วมกับผู้อื่น
การออกกำลังกาย : การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณแข็งแรง ช่วยคลายความเครียด ลดการอักเสบในร่างกาย และยังมีส่วนช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดขาวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันสามารถต่อสู้กับการติดเชื้อได้
สร้างความผ่อนคลาย และนอนหลับให้เพียงพอ : ความเครียดทางจิตใจเรื้อรังสามารถส่งผลให้เกิดความเจ็บป่วยทางร่างกายได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่คุณควรหลีกเลี่ยงความเครียด ฝึกจิตใจให้สงบ และผ่อนคลาย เพื่อการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของคุณ และช่วยให้สุขภาพโดยรวมของคุณดีขึ้น
ทำอย่างไรเมื่อป่วยเป็นหวัด และควรกินอะไร?
เวลาเป็นไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ นอกจากการไปพบแพทย์หรือรับการรักษาที่โรงพยาบาล คุณหมอจะแนะนำวิธีการรักษาและให้ยาที่เหมาะสม คุณก็สามารถปฏิบัติตามวิธีต่อไปนี้ได้ เพื่อบรรเทาอาการไข้หวัด และช่วยให้ร่างกายของคุณต่อสู้กับความเจ็บป่วยได้อย่างเต็มที่
อยู่บ้านและพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณทำงานได้อย่างเป็นปกติ และหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายไวรัสไปยังครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน
ดื่มน้ำให้เพียงพอ คุณสามารถดื่มน้ำผลไม้ ซุปไก่ หรือจะดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ก็ได้ เพราะร่างกายของคุณต้องการของเหลวเพื่อป้องกันอาการคัดจมูก จมูกอุดตัน ไอ จาม เจ็บคอ
เพิ่มความชื้นภายในบ้าน ด้วยเครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ เพราะไอน้ำจะช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสในอากาศ ขับเสมหะ และช่วยบรรเทาการหายใจลำบากได้
กินวิตามินซีช่วยบรรเทาอาการ หากคุณเป็นหวัด การกินวิตามินซี ก็มีส่วนช่วยบรรเทาและลดระยเวลาของการเจ็บป่วยลงได้ และยังเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ภูมิคุ้มกันของคุณได้อีกด้วย
แหล่งอ้างอิง :
1. Eccles, Ronald; Weber, Olaf (2009). Common cold. Basel: Birkhäuser. p. 3. ISBN 978-3-7643-9894-1. Archived from the original on 8 May 2016.
2. Nguyen HH et al, What is the global incidence of influenza?
https://www.medscape.com/answers/219557-3459/what-is-the-global-incidence-ofinfluenza#:~:text=The%20duration%20and%20severity%20of,about%20250%2C000%20to%20500%2C000%20deaths.
3. How to prevent infections. Harvard Medical School, 2016. (Accessed 10/02/2020, at https://www.health.harvard.edu/staying-healthy/how-to-prevent-infections.)
4. Gombart AF, Pierre A, Maggini S. A Review of Micronutrients and the Immune System-Working in Harmony to Reduce the Risk of Infection. Nutrients 2020;12.
ระบบภูมิคุ้มกัน สิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจ
โดยธรรมชาติแล้ว ร่างกายของมนุษย์มีระบบภูมิคุ้มกัน (Immune system) ที่คอยช่วยในการป้องกันเชื้อแบคทีเรียและไวรัสต่าง ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหวัด โดยระบบภูมิคุ้มกันประกอบด้วยกลไกป้องกันสามประการหลัก ๆ คือ ระบบห่อหุ้มร่างกาย (Physical Barriers) เช่นผิวหนังและเยื่อบุ เซลล์เม็ดเลือดขาว และแอนติบอดี การมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี ซึ่งเริ่มต้นจากการรับประทานอาหารครบ 5 หมู่และได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ จึงจำเป็นต่อสุขภาพและการทำงานของระบบต่าง ๆ ที่ซับซ้อนของร่างกาย
เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ศึกษาข้อมูลจากบทความที่เป็นประโยชน์ได้ที่นี่